# รักลูก ต้องเลี้ยงลูกให้รักตัวเองเป็น👨‍👩‍👦

ช่วงเวลานี้ คงเป็นช่วงเวลาที่เด็ก ๆ เริ่มจะปิดเทอมภาคการเรียนที่ 1 กันบ้างแล้ว ถึงแม้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด จะทำให้การเรียนการสอบของเด็ก ๆ ต่างไปจากสถานการณ์ปกติ เพราะเทอมนี้ หลาย ๆ โรงเรียนไม่มีการสอบปลายภาค แต่มีการสอบย่อยเล็ก ๆน้อย ๆ และการเก็บคะแนนจากงานที่ครูสั่งทางออนไลน์ หลายบ้านเริ่มกุมหัวปวดขมับกับไลน์กลุ่มผู้ปกครอง ที่ตามงาน ตามการบ้าน ตามคะแนนเก็บจากลูก ๆ ของพ่อแม่ บางครอบครัวถึงขนาดต้องลางานกันเป็นสัปดาห์ 🎯เพื่อมาติดตามงานที่คั่งค้างของลูก และหลาย ๆ แม่ ก็ถึงขนาดมีน้ำตากับความจริงที่ได้รู้จากคุณครูและผู้ปกครองคนอื่น ๆ ว่า ลูกไม่ยอมส่งงาน ค้างงานอยู่เป็นสิบ ๆ ชิ้น

คุณแม่หลายคน เข้ามาปรึกษาแม่มดว่า ทำยังไงกับลูกวัยรุ่นดี ทำไมเขาไม่รับผิดชอบตัวเอง🎯 ไม่รับผิดชอบการเรียนแบบนี้คะ

คำตอบของแม่มดก็เหมือน ๆ กับที่เคยพูดไปแล้วหลาย ๆ ครั้งคือ ถ้าคุณแม่อยากให้เขารู้จักรับผิดชอบตัวเอง 🎯คุณแม่ต้องไม่ไปแย่งความรับผิดชอบนั้นมาทำเองค่ะ

แล้วแม่มดจะให้ปล่อยให้ลูกสอบตกเหรอคะ เทอมที่แล้วก็ตกตั้งหลายวิชานะคะ พอเทอมนี้ก็ยังไม่เห็นดีขึ้นเลยค่ะ

“เขาจะไม่รู้จักรับผิดชอบตัวเองได้เลย ถ้าเขายังไม่รู้จักรักตัวเอง🎯 ไม่รู้ว่า ชีวิตเป็นของเขา เมื่อไม่รักตัวเอง ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อตัวเองทั้งนั้น”

ในฐานะที่เราเป็นพ่อเป็นแม่ เราจะทำยังไงให้ลูกวัยรุ่นรักตัวเองให้เป็น🎯

สิ่งแรกที่พ่อแม่ต้องทำเมื่ออยากให้ลูกรักตัวเองให้เป็น ก็คือ 💖ต้องปล่อยให้ลูกได้เผชิญกับความยากลำบากด้วยตัวเอง

👨‍👩‍👦พ่อแม่หลายคนรักลูกมาก ตั้งใจมากที่จะเลี้ยงดูลูกอย่างดีที่สุด และคำว่า ดีที่สุด ก็คือ การให้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก และจัดการอย่างดีที่สุดให้กับลูก โดยที่พ่อแม่ไม่อยากให้ลูกมีความทุกข์หรือเจอะเจอกับความลำบากใด ๆ เลย เพราะพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกลำบาก อยากให้ลูกได้รับแต่สิ่งดี ๆ ลูกจึงหมดโอกาสที่จะเผชิญกับความผิดหวัง ความทุกข์ ความไม่สบาย และที่สำคัญคือไม่ได้เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา แม่หลายคน ตามไปทำงาน ทำการบ้านที่คั่งค้างแทนลูก เพราะไม่อยากให้ลูกมีงานค้าง ไม่อยากให้ลูกสอบตก ไม่อยากให้ลูกเกรดเฉลี่ยไม่ดี พ่อแม่บางคน ทำรายงาน ทำงานศิลปะแทนลูก เพราะกลัวลูกได้คะแนนไม่ดี ไม่ได้เกรดสี่ พ่อแม่หลาย ๆคน ตามไปรับส่งลูกถึงหน้าโรงเรียน เพราะกลัวลูกลำบาก ลูกจะได้รับอันตราย จะไปเจอะเจอสิ่งไม่ดี ทั้งหมดทั้งมวลคือ ความรัก ความห่วงใย แต่ลึก ๆ นั้น มันขับเคลื่อนด้วยความกลัว และความวิตกกังวลในใจของพ่อแม่นั่นเอง ถ้าพ่อแม่ไม่ยอมปล่อยให้เขาได้เผชิญความยากลำบากบ้าง ให้เขาได้เจ็บบ้าง เฉียด ๆ อันตรายไปบ้าง สอบตกบ้าง เกรดต่ำบ้าง แล้วเมื่อไหร่ที่เขาจะเรียนรู้ที่จะแก้ไขปัญหา ถ้าเสพแต่ความสุขอย่างเดียว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรทำยังไงเมื่อมีความทุกข์ หรือจะออกจากความทุกข์ได้อย่างไร

สิ่งต่อมา ที่พ่อแม่ต้องทำเมื่ออยากให้ลูกรักตัวเองเป็น ก็คือ 💖การทำให้ลูกรู้สึกว่า ชีวิตเป็นของเขา เขาเป็นเจ้าของชีวิต

ตราบใดที่ลูกไม่รับรู้ว่า ชีวิตเป็นของเขา เขาก็จะไม่รับผิดชอบชีวิตตัวเอง ไม่รักตัวเอง และไม่พร้อมที่จะพัฒนาเพื่อตัวเอง

พ่อแม่จำนวนมากที่ยังมีความคิดว่า พ่อแม่เป็นเจ้าชีวิตของลูก ลูกเป็นลูกของเรา เราสามารถจะสั่ง จะบงการ จะชี้นำชีวิตของลูกไปตามที่ต้องการได้ แต่เรามักจะพบว่า หลาย ๆ ครั้ง ลูกวัยรุ่นถูกกดดัน บีบคั้นมากจนต้องเดินเข้ามาร้องขอชีวิตของเขาคืน เพราะว่า เราพ่อแม่ มักหลงลืมไปว่า ชีวิตของลูกเป็นของเขา การจะทำหรือไม่ทำสิ่งใด ๆ ในชีวิตของเขา เป็นอำนาจและการตัดสินใจของเขา ซึ่งเราต้องเคารพการตัดสินใจของเขา เพราะเขาเป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง

เมื่อไหร่ที่ลูกวัยรุ่นรู้สึกว่า ชีวิตเป็นของเขาเอง เขาจะรักตัวเอง จะรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง รับผลจากการกระทำและไม่กระทำของตัวเอง และเขาจะพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อให้ชีวิตเขาดีขึ้นมา

ถึงเวลาแล้ว ที่พ่อแม่จะปล่อยให้ลูกรับทั้งผิดและชอบด้วยตัวเขาเอง 👨‍👩‍👦เพราะชีวิตของเขาเป็นของเขา โลกของเขากว้างเกินกว่าความต้องการอันคับแคบของพ่อแม่อย่างเราแล้ว ยังมีอะไรอีกมากมายในโลกของเขาที่เขาต้องเผชิญด้วยตัวเขาเอง ขอให้พ่อแม่รักเขาในแบบที่เขาเป็น

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกรักตัวเองเป็นคือ การที่ครอบครัว💖ยอมรับในความเป็นเขา

ลูกวัยรุ่นอาจต้องการการยอมรับจากกลุ่มเพื่อน จากสังคมของเขา แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องการก็คือ การยอมรับจากครอบครัวของเขาเอง💖 ถ้าบ้านอบอุ่น เขาก็พร้อมที่จะกลับมา และไม่จากไปไหน ถ้าบ้านปลอดภัย ไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาก็จะหันกลับมาหาพ่อแม่เสมอ ดังนั้น คนที่เขาต้องการมากที่สุดคือ ครอบครัวนี่เอง 👨‍👩‍👦ถ้าที่บ้านยอมรับในตัวตนของเขา เข้าใจในตัวเขา และรักเขาแบบไม่มีเงื่อนไข ลูกวัยรุ่นก็จะรู้สึกปลอดภัย อบอุ่นใจ และจะรู้จักที่จะรักตัวเองเช่นเดียวกัน เมื่อเขารักตัวเองเป็น เขาก็พร้อมจะเผื่อแผ่และแบ่งปันความรักไปสู่คนอื่น ๆ และไปสู่สังคมได้

จะเห็นได้ว่า กลไกสำคัญที่จะทำให้วัยรุ่นคนหนึ่งรักในตัวเอง ภาคภูมิใจในตัวเองนั้น หรือที่เรียกว่า มี Self Esteem นั้นสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย ด้วยความรักที่พ่อแม่มีให้กับเขา 👨‍👩‍👦ความรักที่พอดี รักแบบไม่มีเงื่อนไข และรักแบบที่เชื่อในศักยภาพของลูกของเรา เราก็จะสามารถวางใจ และไว้ใจ ให้พื้นที่กับชีวิตของเขา และเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงความรักต่อตัวเองอย่างเต็มที่ 💖 ยอมรับในวิถีชีวิตของเขา และเข้าใจในโลกภายภาคหน้าที่ไม่ใช่ของเราอีกต่อไป เพียงเท่านี้พ่อแม่ก็จะมีลูกที่รักตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง และรู้จักที่จะพัฒนาจัดการกับชีวิตของตัวเองได้แล้ว เพียงเท่านี้มิใช่หรือ ที่พ่อแม่อย่างเราต้องการ

เรียนรู้ และพัฒนาความเป็นพ่อแม่ไปพร้อม ๆ กับลูกของเรา และใช้ชีวิตอยู่กับลูกวัยรุ่นอย่างมีความสุขกันนะคะ 💖ขอให้ลูกวัยรุ่นรักตัวเอง และไม่วิ่งหนีหน้าพ่อแม่นะคะ

ด้วยรัก และห่วงใย💗🤱

จากใจ แม่มด😘🧙